ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
พฤษภาคม 02, 2024, 01:08:22 pm
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: งานเทศนาธรรม และการสอนปฏิบัติกัมมัฏฐาน
๏ ทุกวันอาทิตย์ท่ี ๑ ของเดือน เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. ณ บ้านธรรมยอดไกรศรี ๑๒๘/๖๘ หมู่บ้านคาซ่าวิลล์ พระราม ๒-๒ ถนนพระรามท่ี ๒ ซอย ๕๐ (ซอยวัดกําแพง) เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
๏ ทุกวันอาทิตย์ท่ี ๒ ของเดือน เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๕.๓๐ น. ณ บ้านคุณหมอศรุตา ฟักนวม จังหวัดนครปฐม
๏ทุกวันศุกร์ถึงอาทิตย์ที่ ๓ ของเดือนมีการเก็บกัมมัฏฐาน ภาคปฏิบัติ ณ สํานักปฏิบัติ อัญญาวิโมกข์โ์พธิรังษี (วัดป่ากล้วยไม้ดิน) บ้านหนองฟักทอง ตําบลปากช่อง อําเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
๏ แสดงธรรมงานบวชเนกขัมมะประจําปี ณ ศูนย์พุทธศรัทธา บ้านหมอ จ.สระบุรี ในวันมาฆบูชา, วันวิสาขบชูา และวันพ่อ-วันแม่แห่งชาติ (ถ้าธาตุขันธ์องค์หลวงพ่อไม่อาพาธ ก็จะไปมิได้ขาด)
สอบถามรายละเอียดเพ่ิมเติมได้ท่ี คุณสายพิณ โทร. ๐๘-๙๙๐๐-๗๓๙๙ หรือ www.kubajaophet.com
หมายเหตุ : ตารางเวลาอาจมีการเปล่ียนแปลงได้ตามความเหมาะสม

+  ครูบาเจ้าเพชรดอทคอม
|-+  บอร์ดหลัก
| |-+  ประสบการณ์จากการปฏิบัติ
| | |-+  การบ้านที่หลวงพ่อท่านให้
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: การบ้านที่หลวงพ่อท่านให้  (อ่าน 4250 ครั้ง)
yoodthong
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2008, 07:54:02 pm »

ถามสาธุชนผู้ปฎิบัติธรรมทุกท่าน คำว่ารู้ตาม กับตามรู้ นั้นต่างกันยังไร และอย่างไรเรียกว่าตามรู้และอย่างไรเรียกว่ารู้ตาม คำถามนี้หลวงพ่อท่านถาม  ที่บ้านคุณบุญชู เมื่อวันที่ 1พย.2551 ผู้ปฎิบัติย่อมหาคำตอบได้ด้วยตัวท่านเอง
ด้วยการกำหนดพุทธโธ ตามรู้และรู้ตามลม หายใจเข้าและออก ก็จะรู้แจ้งเห็นจริงเอง ใครรู้แล้วก็คงตอบหลวงพ่อได้ครับ สาธุ สาธุ  ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
pantep_s
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2008, 10:58:50 am »

แล้วคุณป้อมคิดว่าอย่างไรละ ฮืม ฮืม ฮืม
บันทึกการเข้า
yoodthong
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 01, 2009, 01:21:39 pm »

"รู้ตาม" กับ "ตามรู้"

พูดถึงสภาวะธรรมนั้นไม่แตกต่างกัน  คือให้กำหนดรู้นั่นเอง ก่อนที่เราจะ "รู้ตาม" ได้ เราต้อง "ตามรู้" ก่อนครับ
เช่น การกำหนดลมหายใจเข้าออก  ผู้ฝึกใหม่ต้อง "ตามรู้" ลมหายใจเข้า/ออก ของเราก่อน
เมื่อกำหนดได้แล้ว (เพราะฝึกใหม่ๆ มักจะกำหนดไม่ได้)  ทีนี่เราก็ไม่ต้องไป "ตาม" มันอีก เรากำหนด "รู้" ไว้เท่านั้น
เรียกว่า "รู้ตาม" คือ "รู้ตาม" สภาพความเป็นจริง  ว่ามัน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไปในที่สุด ลมหายใจของเราก็เช่นกัน
เวลาหายใจเข้า เมื่อลมมันกระทบที่ปลายจมูก มันก็ "เกิดขึ้น" ระหว่างสูดหายใจเข้าก็เป็นสภาวะที่มัน "ตั้งอยู่"
พอเราหายใจเข้าจนสุดแล้ว ก็จะเป็นสภาวะที่มัน "ดับไป" พอเราหายใจออก เริ่มปล่อยลมออกมาก็เป็นสภาวะธรรมที่เรียกว่า "เกิดขึ้น"ระหว่างที่เราปล่อยลมหายใจออกมาก็เป็นสภาวะ "ตั้งอยู่" พอปล่อยลมหายใจสุดแล้วก็จะเป็นสภาวะ "ดับไป" หมุนเวียนกันเช่นนี้  ซึ่งเป็นเรื่องยากที่เราจะ "รู้ตาม" ซึ่งในขั้นแรกเราก็ต้อง "ตามรู้" ก่อน จนมันคล่องแคล่วดีแล้ว ตามที่ท่านเรียกว่า "วสี" เราก็ไม่ต้องไป "ตามรู้" มันอีก เราอยู่เฉยๆ เราก็รู้สึกเอง เรียกว่า "รู้ตาม" สิ่งต่างๆก็เช่นเดียวกัน
คือเราต้อง "ตามรู้" ตามความเป็นจริงของสภาวะธรรมนั้นๆ ก่อนจากนั้นเมื่อเราชำนาญแล้ว เราก็ไม่ต้องตาม แต่มันจะรู้เอง
เราก็อยู่ในสภาวะธรรมที่เรียกว่า "รู้ตาม"  หรือรู้ตามความเป็นจริงของสิ่งนั้นๆ รู้อะไร?
ท่านว่ารู้ในพระไตรลักษณ์
คือรู้ว่า สิ่งทั้งหลาย (ท่านเรียกว่าสังขารทั้งหลาย) มันไม่เที่ยง เป็น "อนิจจัง" สิ่งทั้งหลาย (สังขารทั้งหลาย) มันไม่ตั้งมั่นยั่งยืนธรรมทั้งหลาย เป็นอนัตตา (ท่านว่า แม้แต่พระนิพพานก็เป็นอนัตตา)
 ยิงฟันยิ้ม ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม ยิ้มกว้างๆ ยิงฟันยิ้ม ถูกผิดอย่างใดบอกด้วยครับ

บันทึกการเข้า
lala
Newbie
*
กระทู้: 9


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: กันยายน 15, 2010, 12:11:37 am »

เห็นด้วยค่ะ  ยิ้ม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!