ครูบาเจ้าเพชรดอทคอม

เรียน ทุกท่าน

ได้แนบ ไฟล์ แบบทะเบียนประวัติ  ใบสมัครเข้าอบรม การวัดความรู้เพื่อประเมินผลภูมิธรรมสามัญ 

และ ตารางเวลาอบรม ระหว่างวันที่ 4-6 เมษายน 2552

ทุกท่านสามารถ นำไป copy และประชาสัมพันธ์ต่อได้เลย

หมายเหตุ แบบฟอร์มนี้ ได้ถวายให้หลวงพ่อตรวจเช็คเรียบร้อยแล้วค่ะ

ขอบคุณค่ะ

กัญญณัช  ธูปทอง (พิน)

กลุ่มสมาธิภาวนา ชมรมพุทธศาสตร์ เครือซิเมนต์ไทยท่าหลวง

ขอเชิญร่วมเข้ารับการอบรมธรรม

หลักสูตรการวัดความรู้เพื่อประเมินผลภูมิธรรมสามมัญ รุ่นที่ ๑

โดยหลวงพ่อครูบาเจ้าเพชร วชิรมโน

ณ ศูนย์พัฒนาม่วงน้อยเครือซิเมนต์ไทย

อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี

ระหว่างวันที่ ๔-๖ เมษายน ๒๕๕๒

วัตถุประสงค์
๑.เพื่อยกระดับภูมิธรรมของผู้ที่เข้ารับการอบรม ทั้งที่
    เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ความรู้เพื่อการ ปฏิบัติ
    และความรู้ของพุทธวัจนะ
๒.เพื่อความสมานฉันท์สามัคคี แห่งพุทธศาสนิกชน

รูปแบบการอบรม
๑.ให้ความกระจ่างทางความรู้พุทธศาสนาในแนวทางการมีส่วนร่วมของผู้เข้าอบรม
   ทั้งในการแสดงความคิดเห็น  คำถาม คำตอบและการสอบ
๒.ฝึกอบรมภาคปฏิบัติขั้นพื้นฐานสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ มี ยืน เดิน นอน  เป็นต้น

วันที่ ๔ เม.ย.๒๕๕๒   
     
     เวลา                   กำหนดการ
๐๘.๐๐น.-๐๘.๓๐น.   ลงทะเบียน
๐๘.๓๐น.-๑๑.๐๐น.   อบรมภาคเช้า
๑๑.๐๐น.-๑๒.๐๐น.   รับประทานอาหารกลางวัน
๑๒.๐๐น.-๑๓.๐๐น.   พักผ่อนตามอัธยาศัย
๑๓.๐๐น.-๑๖.๐๐น.   อบรมภาคบ่าย
๑๖.๐๐น.-๑๘.๐๐น.   ดื่มน้ำปานะ,กางเต็นท์ เตรียมที่พัก
๑๘.๐๐น.-๒๑.๐๐น.   สวดมนต์ทำวัตรเย็น,อบรม
๒๒.๐๐น.        เข้านอน

วันที่ ๕ เม.ย.๒๕๕๒   

       เวลา                         กำหนดการ
๐๕.๐๐น.-๐๗.๐๐น.   สวดมนต์ทำวัตรเช้า นั่งสมาธิ
๐๗.๐๐น.-๐๘.๐๐น.   รับประทานอาหารเช้า
๐๘.๐๐น.-๑๑.๐๐น.   อบรมภาคเช้า
๑๑.๐๐น.-๑๒.๐๐น.   รับประทานอาหารกลางวัน
๑๒.๐๐น.-๑๓.๐๐น.   พักผ่อนตามอัธยาศัย
๑๓.๐๐น.-๑๖.๐๐น.   อบรมภาคบ่าย
๑๖.๐๐น.-๑๘.๐๐น.   ดื่มน้ำปานะ,พักผ่อนตามอัธยาศัย
๑๘.๐๐น.-๒๑.๐๐น.   สวดมนต์ทำวัตรเย็น ,อบรม
๒๒.๐๐น.        เข้านอน

วันที่ ๖ เม.ย.๒๕๕๒   

        เวลา                          กำหนดการ
๐๕.๐๐น.-๐๗.๐๐น.   สวดมนต์ทำวัตรเช้า นั่งสมาธิ
๐๗.๐๐น.-๐๘.๐๐น.   รับประทานอาหารเช้า
๐๘.๐๐น.-๑๑.๐๐น.   อบรมภาคเช้า
๑๑.๐๐น.-๑๒.๐๐น.   รับประทานอาหารกลางวัน
๑๒.๐๐น.-๑๓.๐๐น.   พักผ่อนตามอัธยาศัย
๑๓.๐๐น.-๑๕.๐๐น.   อบรมภาคบ่าย
๑๕.๐๐น.        พิธีปิดการอบรม มอบประกาศนียบัตร และรับแหวน

    ระเบียบควรปฏิบัติ
๑. รักษาศีล ๘
๒. แต่งกายชุดขาว
๓. ห้ามถูกต้องตัวระหว่างชาย – หญิง
๔. ห้ามยืนในขณะดื่มน้ำ และรับประทานอาหาร
๕. ห้ามผู้ชายยืนปัสสาวะ
๖. ห้ามใส่เครื่องประดับของมีค่า (ยกเว้นนาฬิกา)
๗. ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องมือสื่อสาร
๘. เต็นท์นอน ๑ คน หรือ ไม่เกิน ๒ คน
     (แยกชาย-หญิง)
๙. เนื่องจากสถานที่ไม่อำนวยในการอาบน้ำ
     จึงของดในการอาบน้ำ
๑๐. ควรรักษาเวลา (หรือมาก่อนเวลาที่กำหนด)
๑๑. สิ่งที่ต้องเตรียมมา
      กลด หรือ เต็นท์ , เครื่องใช้ส่วนตัว ,
      ยารักษาโรคส่วนตัว ,ไฟฉาย , ปากกาสีน้ำเงิน

สถานที่อบรม

- ณ ศูนย์พัฒนาม่วงน้อยเครือซิเมนต์ไทย จะจัดที่
   ห้องอบรม ๑,๒ สำหรับเรียน ทำข้อสอบ และห้อง 
  อบรม ๓,๔ สำหรับสวดมนต์ นั่งสมาธิ
- ที่พักเป็นลักษณะ กางกลด หรือเต้นท์ บริเวณ สนาม
  หญ้ารอบๆ อาคารศูนย์พัฒนาฯ
- อาหารเป็นแบบบุฟเฟต์ กับข้าว ๒ อย่าง
  พร้อมผลไม้ ๑ อย่าง รวม ๕ มื้อ (น้ำปานะ ๒ มื้อ)

สามารถติดต่อสอบถามและขอรับใบสมัครได้ที่
๑.  ศูนย์พัฒนาม่วงน้อยเครือซิเมนต์ไทย ทุกวันพฤหัสบดี
     ตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป
๒. ที่วัดอ้อมแก้วมณีโชติ ทุกวัน ติดต่อได้ที่
      คุณป้าดา โทร.๐๘๙-๗๐๕๑๐๐๓
๓. สายกรุงเทพ คุณ โอ โทร. ๐๘๑-๘๓๔๓๘๑๕
๔. สาย TPI คุณ บุญชู โทร.๐๘๐-๖๖๖๔๑๔๖
๕. ดอนพุด คุณครู สุมณฑา โพธิ์ทอง โทร.๐๘๔-๑๒๖๗๓๑๖
๖. ดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.kubajaophet.com

ขั้นตอนการสมัคร

- ท่านสามารถแจ้งความจำนง และขอรับใบสมัครได้ตาม
   สถานที่ดังกล่าว
- กรอกรายละเอียด แบบทะเบียนประวัติ และใบสมัครเข้าอบรม
   ส่งใบสมัครภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๒
- ค่าใช้จ่าย ตลอดการอบรม ท่านละ ๓๐๐ บาท
- สำหรับท่านที่ต้องการรับแหวน จ่ายมัดจำงวดแรก ๕๐๐ บาท
   พร้อมค่าสมัคร และส่วนที่เหลือชำระวันที่ ๖ เม.ย. ๒๕๕๒
   และส่งใบสมัครภายในวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒

โครงการนี้เป็นโครงการที่น่าสนใจมากค่ะ

สำหรับท่านที่ กลัวภัยในวัฏสงสาร

ท่านจะได้รับความรู้ที่ถูกต้องทางพระพุทธศาสนา (ตามพระไตรปิฏก)

ท่านจะได้ทราบว่า ภูมิความรู้ทางธรรมของท่านมีแค่ไหน

เป็นการวัดผลพื้นฐานที่สุดในทางพระพุทธศาสนาที่เราควรจะรู้

เช่น ผีมีจริงมั๊ย เรื่องการทำบุญ การอุทิศส่วนกุศล การแผ่เมตตา

ข้อสอบเป็นแบบคำถาม แล้วให้เขียนคำตอบตามความเข้าใจของผู้สอบ

แล้วหลวงพ่อจะมาเฉลยเป็นข้อๆ และหลวงพ่อจะสอน การปฏิบัติในอิริยาบถ

ต่างๆ เช่น ยืน เดิน นอน นั่ง การเดินจงกรม เป็นต้น

ขอแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ เรื่อง

อบรม การวัดความรู้เพื่อประเมินผลภูมิธรรมสามัญ 

ตอนนี้ปิดรับสมัครแล้วค่ะ จำนวนผู้เข้าอบรมทั้งหมด 122 ท่าน

เนื่องจากพื้นที่ในการอบรมจำกัด ไม่เพียงพอ

ขออนุโมทนากับทุกท่านที่เข้าอบรมในครั้งนี้ด้วยนะคะ

อบรม การวัดความรู้เพื่อประเมินผลภูมิธรรมสามัญ 
ระหว่างวันที่ 4-6 เมษายน 2552  ::)

เริ่มเลยนะครับอันแรกนี้พบกับที่พักอาศัยของผู้เข้าอบรมกันก่อน กางเต้นครับ หลวงพ่อแจ้งว่าให้ซื้อเต้นนั่งนะครับ ไม่ใช่เต้นนอน แต่เอ เสียงกรนจากที่ไหนเอ่ย
รูปนี้เริ่มช่วยกันกางเต้นครับ

บางทีมีผู้ช่วยก็ดีนะ ช่วยกันจับหน่อย

ช่วยมากหน่อย 4 ด้านครบเลย

บรรยากาศยามค่ำคืน อย่าลืมแผ่เมตตาก่อนนอนด้วยนะครับ

เข้าแถวตักบาตรเป็นระเบียบน่าชื่นชมมาก ขอชมทีมงานที่วางระบบไว้ดีครับ

ถวายอาหาร หลวงพ่อฉันมือเดียวและฉันในบาตรครับ

รับพรกันถ้วนหน้าครับ

หลวงพ่อพิจารณาอาหารครับ เราต้องพิจารณาด้วยนะครับว่าที่เรากินเพราะรักษาธาตุขันธ์หรือเพราะอยาก

อันนี้เราทานอาหารบ้างครับเข้าแถวเป็นระเบียบดูงามตา  อาหารไม่กี่อย่างแต่มาปฏิบัติ รักษาธาตุขันธ์ครับอยากกินก็ไปร้านอาหารเอาละกัน แต่ผมว่ารสชาติถูกปากครับ ขอบคุณแม่ครัวที่ทำอาหารอร่อยๆให้เราทาน

รูปบรรยากาศในการอบรม ต้องขอขอบคุณคุณสมศักดิ์และทีมงานทุกคนที่ทำให้เกิดการอบรมในครั้งนี้ได้ อนุโมทนาบูญครั้งนี้ด้วยครับ

นอกจากอบรมในห้องแล้วเรายังได้อบรมภายนอกห้องด้วย ใต้ต้นไม้ใหญ่บรรยากาศดีจังเลย

เมือนั่งนานก็เมื่อยหลวงพ่อนำบริหารกายกันหน่อย

สวดมนต์เช้า เย็น พร้อมเพรียงกันดีมีพลังมากครับ ได้สรรเสริญคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สวดแล้วเป็นปิติ

นอกจากฟังธรรม ยังมีประชุมกลุ่มย่อยด้วย ปริกษากันน่าดูครับเพื่อเตรียมรายงาน

สิ่งที่น่ากลัวของผู้เข้าอบรม นั่นคือการ สอบ แต่ผลสอบคงรู้แล้วนะครับเพราะหลวงพ่อสรุปตอนปิดการอบรม เป็นช็อตเด็ด งงละซี นั่นไม่ได้อยู่ที่กระดาษคำตอบ อยู่ที่ไหน???? คงรู้กันแล้ว :-X

รูปหลวงพ่อฟังการสรุปผลการเข้าอบรมจากตัวแทนกลุ่ม

รายงานผลการเข้าอบรมในครั้งนี้

มอบประกาศสำหรับผู้เข้าการอบรม มีข้อธรรมให้แต่ละคนด้วยใส่กรอบเอาไว้พิจารณากันนะครับ แปลกดีเคยเห็นเป็นครั้งแรก ทีแรกคิดว่าข้อธรรมเหมือนกันทุกคนแต่ไม่ใช่ เป็นปิติ :'(

หลังจากสึกแล้ว ร้องเพลง ก่อนจากกันสักหน่อย แล้วพบกันใหม่นะครับ
รูปภาพทั้งหมดรวบรวมติดต่อกับสายงานที่สมัครเข้ออบรมได้ครับ ตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่คงเสร็จภายในอาทิตย์นี้ครับส่วน mp3 น่าจะเสร็จสิ้นเดือน

รูปนี้อาจไม่ชัดเพราะลดขนาดแยะ

ขออนุญาต นำบางส่วนที่หลวงพ่อกล่าวในวันปิดอบรมมาให้อ่านกัน และผลสอบ(ตามเลขที่) ดูได้ในไฟล์ที่แนบค่ะ


หลวงพ่อกล่าวในวันปิดอบรม

         ลูกรัก ทุกคนจงฟัง ต้นไม้ใหญ่โตได้เพราะอาศัยดินที่มีปุ๋ย
กิ่งก้านสาขาออกใบ ออกผล ออกดอก ลำต้นใหญ่โต
 
                ลูกเอ้ย..เรามองดูภาคพื้นแล้วว่าต้นไม้มีค่า
ต้นไม้มีประโยชน์เพราะนำไปทำบ้าน ทำเป็นเรือก็ได้
สร้างเป็นสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆก็ได้ มีโต๊ะเก้าอี้เป็นต้น
 
                ลูกรักทุกคน สิ่งเหล่านั้นมิเป็นประโยชน์เลย
ถ้าขาดพื้นดินแล้วต้นไม้ก็ไม่สามารถขึ้นได้ ถ้าขาดพื้นดินแล้ว ทั้งบ้าน
และโต๊ะ เก้าอี้ ก็ไม่มีที่จะวาง พื้นดินจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ถึงแม้เราจะมองไม่เห็นว่า พื้นดินเป็นของสำคัญ
แต่โดยธรรมชาติตัวของมันแล้ว มันก็เป็นสิ่งสำคัญต่อสัตว์โลก
สัตว์โลกทั้งหลายต้องอาศัยพื้นดินเพื่อดำรงชีวิต
ต้นไม้ทั้งหลายก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน
 
                การที่ลูกๆทุกคนมาปฏิบัติธรรม มาฟังธรรม
ทุกท่านได้เห็นสิ่งต่างๆทั้งหมด
จะเป็นคนที่ประกอบศีลธรรมหรือไม่ประกอบไปด้วยศีลธรรมอันดีงาม
จะละเมิดขาดตกบกพร่องไปบ้างก็ตาม
จงเห็นว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินเหมือนกัน แม้ตัวเจ้า
เจ้าก็เป็นส่วนหนึ่งของดินเหมือนกัน
ความใหญ่ยิ่งยิ่งใหญ่นั้นก็ขึ้นอยู่บนรากฐานของความเล็ก
ความผิดความพลาดทั้งหลายที่เกิดขึ้นก็เป็นพื้นฐานแห่งความยิ่งใหญ่ในอนาคตเช่นกัน

 
เจ้าทั้งหลายจงมองดูสิ่งเหล่านี้ให้เป็นปุ๋ย
ให้เป็นประโยชน์เหมือนดั่งต้นไม้ที่ได้รับประโยชน์อย่างนั้น
จงอย่ามองไปในความผิดของคนอื่นแล้วทำให้ตัวเองเป็นทุกข์
เป็นเศร้าเป็นโศรกไม่ได้ประโยชน์อะไร
มองแล้วหันกลับมองตัวเองเหมือนข้อสอบที่เราสอบทุกคน
เราสอบใจเราได้ด้วยการสอบดูความผิดและความถูกของคนอื่น
แล้วนำย้อนกลับมาดูความผิดและความถูกของตัวเราเอง
 
คุณครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่มาอบรมกันในวันนี้ ต่างก็เคยออกข้อสอบให้กับเด็กนักเรียน
เคยตรวจข้อสอบให้กับเด็กนักเรียน เคยตรวจเคยสอบข้อสอบของตัวเองบ้างไหม
ว่าเราถูกเท่าไหร่ เราผิดเท่าไหร่
 
วันนี้ก็เหมือนกัน ข้อสอบที่แท้จริงไม่ได้มีอยู่ที่บนโต๊ะ
แต่ข้อสอบที่แท้จริงที่หลวงพ่อให้ทุกท่านไป คือ ตัวท่านทุกคน คือ
สิ่งที่ทุกคนกำลังทำกิริยาอาการต่างๆ ทั้งหมด จะเป็นถูกบ้าง ผิดบ้าง สนุกสนานบ้าง
ร่าเริงบ้าง สำรวมบ้าง ไม่สำรวมบ้าง ข้อสอบทั้งหมดอยู่ที่นั่นทั้งสิ้น
ไม่ได้อยู่ที่กระดาษที่หลวงพ่อให้เลย
ข้อสอบที่เขียนเป็นกระดาษนั้นเป็นแค่อุบายหลอกเจ้าเท่านั้น เพื่อให้เจ้าทราบว่า
“ธรรมะไม่ใช่ของที่ตาจะมองเห็น หรือเป็นของที่เจ้าจะเขียนได้
แต่ธรรมะเป็นของที่เจ้าจะรู้ได้ด้วยใจ”
 
ข้อสอบที่แท้จริงสามวันนี้คือ พวกเธอทุกคน พวกเธอทุกคนนั่นแหละเป็นข้อสอบของทุกคน
เธอเห็นอย่างไร  เธอดูอย่างไร การไม่ได้เข้าห้องน้ำ การไม่มีเวลาที่จะพักผ่อน
การนั่งปวดแข้งปวดขา เหนื่อยยาก ง่วงนอน เพลีย หลายเรื่องหลายราวทั้งหมด
รวมถึงการรับประทานอาหาร ทั้งหมดทั้งสิ้นนี่คือข้อสอบ
 
ข้อสอบทั้งหมดที่ท่านสอบ บัดนี้ท่านคงทราบแล้วว่า ท่านสอบผ่านหรือไม่ผ่าน
ผลการสอบทั้งหมดที่ท่านสอบมา 3วัน 90 ข้อ ไม่เป็นประโยชน์อะไรเลย มันเป็นเพียงกระดาษ
ความหมายของของจริง แต่ของจริง อยู่ที่ตัวของท่านทุกคน
 
ลูกรัก เอ้ย..ของจริงอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ได้อยู่ที่นั่นเจ้าไม่ต้องถามก็ได้
เจ้าไม่ต้องรู้ก็ได้ว่าเจ้าสอบได้กี่ข้อ เจ้าสอบถูกหรือสอบผิด
แต่วันๆหนึ่งที่เจ้าล่วงไปๆ เลยไป จะเป็นในอาคารประชุมนี้ก็ตาม ในเต็นท์ก็ตาม
ในที่นั่งคุยสนทนาก็ตาม ในที่ที่ย่องไปอาบน้ำก็ตาม ไปเขียนคิ้วเขียนตาก็ตาม
เดินดื่มน้ำก็ตาม ทานกาแฟผสมก็ตาม ทานนมก็ตาม ทุกอย่างทั้งหมดที่ทุกๆคนทำกิริยากันหนะ
ไม่ใช่หลวงพ่อไม่ทราบ แต่ไม่ห้าม แต่อยากรู้ว่าท่านทั้งหลายจะทราบหรือไม่ว่า
หลวงพ่อสอบอะไรพวกเธอทุกคน แต่เธอทุกคนก็ไม่ได้ทราบหรอก
เพราะเธอเก็งข้อสอบที่อยู่บนโต๊ะมากกว่าข้อสอบที่ของจริงที่อยู่ตรงหน้าของเธอทุกคน
ความจริง ปรากฏอยู่ที่หน้าผากของเจ้า แต่ไม่ได้อยู่ที่หน้าผากของคนอื่น           
 
สรุปใจความการอบรมในครั้งนี้ คือตกหมดทุกคน เพราะลืมดูตัวเองมากกว่า เนี่ย
เกณฑ์ไม่ได้ถึง 45 คะแนน คะแนนเต็ม 90 คะแนน
 
จริงๆแล้วการสอบหรือการอบรมเนี่ย หลวงพ่อจะเน้นเรื่องภาคปฏิบัติมากกว่า
หลวงพ่อไม่เน้นเรื่องการสอนพวกนี้หรอก ไม่เน้นการมานั่งโต๊ะออกข้อสอบพวกนี้หรอก
น่าจะฉงนสนเท่ห์ใจหน่อยเน๊าะ
 
ฉั้นยังพูด เออ.. พวกเธอมีบุญเน๊าะ พระกัมมัฏฐานมาทำข้อสอบแล้วมานั่งคุมสอบให้พวกเธอ
ฉันดูกิริยาของแต่ละคน นั่งเลื้อยไปเลื้อยมา โต๊ะเป็นมันเป็นแพล็บหมด ไถไปไถมา
บิดไปบิดมา เหล่ซ้ายเหล่ขวา ชำเลืองซ้ายชำเลืองขวา ถามอ้อมค้อม
ข้อนี่มันเขียนว่ายังไงนะ เขียนแบบนี้ อะไรต่างๆนานา ทั้งหมดแหละ นั่นแหละ เข้าเรียกว่า
AQ เอาตัวรอด ศักยภาพแห่งการเอาตัวรอด ผิดถูกชั่งหัวมัน กูเอารอดไว้ก่อน
กูผ่านไว้ก่อนเป็นใช้ได้ นี่ มันเป็นอย่างนั้น รู้มั๊ยว่าตลอดเวลาที่เธออยู่ที่นี่
แม้แต่ฉั้นเข้าไปพักอยู่ข้างในก็ตาม ขนาดคุณวรวิทย์กลับไปทำงานที่ทำงานหนะ
ยังรู้เลยว่าเค้าทำอะไร เค้าตั้งอารมณ์อย่างไงมันถูกหรือมันผิด
แล้วพวกเธออยู่ใกล้ขนาดนี่ ฉั้นจะไม่รู้เชียวหรือ นี่ อย่าว่าแต่ร้อยกว่าคนเล้ย
มากกว่านี้ก็ได้ นี่ วัดกันตรงนี้ก็ยังได้นะ นี่ ภาวะจิตพวกเธอเป็นยังไง
อารมณ์จิตพวกเธอเป็นยังไง อื้ม.. เพราะฉะนั้นการสอบคือสอบของตัวเราเอง
แต่ไม่ได้สอบธรรมะ ธรรมะเราไปสอบไม่ได้ เราไปให้ถูกให้ผิดก็ไม่ได้ นี่
ถ้าจะให้ถูกให้ผิด คือ ให้ความคิดเห็นว่าอันนี้ไม่ถูก ความคิดอันนี้ห็นถูก
เท่านั้นแหละ
 
เพราะฉะนั้นขอฝากไว้ว่าทุกท่านทั้งหลายอย่ามองว่าต้นไม้มีค่าเสมอไป
จงมองสิ่งที่เจ้าไม่เคยมอง ว่ามันมีค่า
อย่างน้อยเจ้าก็มีหัวที่ตั้งอยู่บนบ่าเมื่อเจ้าคิดไม่ออก
เพราะว่ามันเครียดจนมีอาการปวดหัว พึ่งรู้ว่ามีหัว แต่เดิมทีไม่รู้ว่ามีหัว
ตอนนี้เจ้าสึกมีหัวมั๊ย ถ้าเจ้าไม่ลืมตามอง เจ้าก็รู้สึกว่าหัวมันไม่มีหรอก นี่
อวัยวะในร่างกายทุกส่วนเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่รู้สึกว่ามันมีค่า เพราะมันอยู่กับเรา
แต่ต่อเมื่อมันขาดไปเมื่อไหร่ แม้แต่นิ้วก้อยนิ้วเดียว
เสียเงินเท่าไหร่ถ้าเอามันกลับมาเราได้ก็ยอมเสีย ฉะนั้นสรีระร่างกายทั้งหมด
จะว่ามันเป็นประโยชน์ทั้งหมดเลยก็ไม่ใช่ จะว่ามันไม่เป็นประโยชน์ทั้งหมดเลยก็ไม่ใช่
เหมือนต้นไม้จะว่ามันไม่เป็นประโยชน์ทั้งหมดเลยก็ไม่ใช่ จะว่ามันมีประโยชน์ก็ไม่ใช่ นี่
ประโยชน์หรือไม่ประโยชน์ขึ้นอยู่กับว่ามันตั้งอยู่ที่ไหน
 
คนทุกคนจะมีประโยชน์มีคุณค่าทางราคาคุณธรรม คือตั้งอยู่บนศีล
เหมือนต้นไม้ตั้งอยู่บนพื้นดิน ฉันนั้นเหมือนกัน
 
 เอวังก็มีประการเช่นนี้....

 ;)