ครูบาเจ้าเพชรดอทคอม

เรียนถามข้อสงสัยจำนวน 3 ข้อค่ะ

1. พระพุทธองค์ทรงปฏิเสธเรื่อง "โอปปาติกะ" หรือไม่
2. "จูฬกัมมวิภังคสูตร" ในพระสุตตันตปิฏก เป็นพระสูตรที่ว่าด้วยเรื่องอะไร ?
3. "เนวสัญญา" หมายถึงอะไรค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ

เป็นคำถามที่เป็นประโยชน์มากค่ะ สำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบ

จะนำคำถามนี้ ไปขอความเมตตากราบเรียนถามหลวงพ่อ ให้ค่ะ

ในวันพฤหัสที่ 14 ม.ค.(สอนที่ศูนย์พัฒนาม่วงน้อยเครือซิเมนต์ไทย จ.สระบุรี)

กราบขอบพระคุณค่ะ เนื่องจากไม่รู้ จริงๆและสงสัย

ขออภัยด้วยค่ะที่ตอบคำถามให้ช้า

1. พระพุทธองค์ทรงปฏิเสธเรื่อง "โอปปาติกะ" หรือไม่
    ตอบ พระพุทธองค์ทรงไม่ปฏิเสธ เรื่อง "โอปปาติกะ"

2. "จูฬกัมมวิภังคสูตร" ในพระสุตตันตปิฏก เป็นพระสูตรที่ว่าด้วยเรื่องอะไร ?

    ทีมงานหาคำตอบจาก net มาให้ค่ะ

จูฬกัมมวิภังคสูตร

          จูฬกัมมวิภังคสูตร เป็นพระสูตรหนึ่งในจำนวนสิบสูตรของวิภังควรรค ในมัชฌิมนิกาย พระสุตตันตปิฎก พระสูตรนี้ว่าด้วยคนทำกรรมแล้วได้รับผลต่าง ๆ
ที่มาของพระสูตร พระสูตรนี้ พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่สุภมานพ โตเทยบุตร ขณะประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี เพื่อทรงตอบปัญหาของสุภมานพ เรื่องเหตุที่ทำให้สัตว์มีอายุสั้น มีอายุยืน มีโรคมาก มีโรคน้อย เป็นต้น

          รูปแบบของพระสูตร รูปแบบของจูฬกัมมวิภังคสูตรเป็นการสนทนาแบบถาม-ตอบ มีอุปมาอุปไม ประกอบใจความสำคัญของพระสูตร สุภมานพ โตเทยบุตร ทูลถามถึงเหตุที่ทำให้สัตว์มีอายุสั้น มีอายุยืน มีโรคน้อย เป็นต้นและ กำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมจึงจำแนกสัตว์ให้ เลวและดีต่างกันเมื่อมาณพกราบทูลให้อธิบาย จึงตรัสอธิบายเป็น 7 คู่ คือ


1. เหตุที่ทำให้อายุสั้น เพราะฆ่าสัตว์ เหตุที่ทำให้อายุยืน เพราะไม่ฆ่าสัตว์
2. เหตุที่ทำให้มีโรคมาก เพราะเบียดเบียนสัตว์ เหตุที่ทำให้มีโรคน้อย เพราะไม่เบียดเบียนสัตว์
3. เหตุที่ทำให้มีผิวพรรณทราม เพราะเป็นผู้มักโกรธ เหตุที่ทำให้ผิวพรรณผ่องใส เพราะเป็นผู้ไม่โกรธ
4. เหตุที่ทำให้มีอำนาจน้อย เพราะมีใจริษยา เหตุที่ทำให้มีอำนาจมาก เพราะมีใจไม่ริษยา



3. "เนวสัญญา" หมายถึงอะไรค่ะ
    ตอบ มีเหมือนไม่มี สัญญา ไม่ใช่ไม่มี

ได้รับความรู้ด้วย    อีกอักโข
แต่ขออนุญาติเสนอข้อคิดเห็นสักเล็กน้อย
คืออยากเรียนคุณพี่เจ้าของกระทู้อย่างนี้ครับ
ที่ข้าพเจ้าพอรู้จักหลวงพ่อครูบาเจ้าเพชรฯ  บ้างเล็กน้อย
ท่านเป็นครูบาอาจารย์  ที่เน้นหนักไปในทาง  วิปัสสนาธุระ  ไม่ใช่คันถธุระ
คุณพี่ลองเรียนถามท่านเรื่องข้อสงสัยในการปฏิบัติ   หรือการบำเพ็ญทางจิตดูสิครับ
บางทีอาจได้รับคำตอบที่อัศจรรย์ใจ    ที่หลายคนเคยได้รับ

ขอบคุณอีกครั้งทั้งคำถามและคำตอบ    โอกาสหน้าคงได้มาหาความรู้อีก

กราบขอบพระคุณสำหรับคำตอบค่ะ

ขอตอบคุณพี่ท่านขุนเดชด้วยค่ะ คำถามที่ถามมีเหตุค่ะ ... จึงถาม

ข้อสงสัยเรื่องการปฏิบัติ ส่วนตนกำลังพยามยามปฏิบัติตนให้อยู่ในศีล 5 หนทางที่ง่ายที่สุดให้ได้อย่างครบถ้วนอยู่ค่ะ
ส่วนหากมีข้อปฏิบัติใดๆ ที่ทำแล้วสงสัยจะไม่ลังเลที่จะถามครูบาอาจารย์โดยแน่นอนค่ะ

ส่วนความอัศจรรย์ใจนั้นในเรื่องการปฏิบัติที่ได้ฟังจากหลวงพ่อฯ โดยตรง+ธรรมเทศนาของท่าน
ไม่เพียงแค่แค่อัศจรรย์ในใจ ยังได้เปิดความคิดเห็น เปิดมุมมองให้เห็นในด้านต่างๆอีกหลากหลายค่ะ
และน้อมนำคำสอนมาสู่ตัวของเรา นอกจากมองตัวตนของบุคคลอื่นๆ กราบขอบพระคุึณค่ะ