ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
พฤษภาคม 03, 2024, 12:17:32 pm
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ข่าว: งานเทศนาธรรม และการสอนปฏิบัติกัมมัฏฐาน
๏ ทุกวันอาทิตย์ท่ี ๑ ของเดือน เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. ณ บ้านธรรมยอดไกรศรี ๑๒๘/๖๘ หมู่บ้านคาซ่าวิลล์ พระราม ๒-๒ ถนนพระรามท่ี ๒ ซอย ๕๐ (ซอยวัดกําแพง) เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
๏ ทุกวันอาทิตย์ท่ี ๒ ของเดือน เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๕.๓๐ น. ณ บ้านคุณหมอศรุตา ฟักนวม จังหวัดนครปฐม
๏ทุกวันศุกร์ถึงอาทิตย์ที่ ๓ ของเดือนมีการเก็บกัมมัฏฐาน ภาคปฏิบัติ ณ สํานักปฏิบัติ อัญญาวิโมกข์โ์พธิรังษี (วัดป่ากล้วยไม้ดิน) บ้านหนองฟักทอง ตําบลปากช่อง อําเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
๏ แสดงธรรมงานบวชเนกขัมมะประจําปี ณ ศูนย์พุทธศรัทธา บ้านหมอ จ.สระบุรี ในวันมาฆบูชา, วันวิสาขบชูา และวันพ่อ-วันแม่แห่งชาติ (ถ้าธาตุขันธ์องค์หลวงพ่อไม่อาพาธ ก็จะไปมิได้ขาด)
สอบถามรายละเอียดเพ่ิมเติมได้ท่ี คุณสายพิณ โทร. ๐๘-๙๙๐๐-๗๓๙๙ หรือ www.kubajaophet.com
หมายเหตุ : ตารางเวลาอาจมีการเปล่ียนแปลงได้ตามความเหมาะสม

+  ครูบาเจ้าเพชรดอทคอม
|-+  กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: 1 ... 8 9 [10]

 91 
 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 08:24:43 pm 
เริ่มโดย มือใหม่หัด พุทโธ - กระทู้ล่าสุด โดย มือใหม่หัด พุทโธ
ประมวลภาพ อัญญาวิโมกข์โพธิรังษี ปี 52


 92 
 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 12:17:01 am 
เริ่มโดย lala - กระทู้ล่าสุด โดย lala
ตอนนี้ยังสามารถถามคำถามธรรมะได้อยู่ไหมคะ เห็นส่วนใหญ่ถามมาตั้งแต่หลายเดือนก่อน


 93 
 เมื่อ: ตุลาคม 01, 2010, 12:01:53 am 
เริ่มโดย manmaneekooko - กระทู้ล่าสุด โดย lala
ได้รับหนังสือและซีดีธรรมะของหลวงพ่อแล้ว ถ้ามีโอกาสอยากไปฝึกกรรมฐานที่อัญญาวิโมกข์บ้าง แต่ไม่ทราบจะมีคนไปด้วยหรือเปล่า เพราะเดินทางไม่ค่อยสะดวกน่ะค่ะ ตอนนี้ต้องขอ ขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญกับหลวงพ่อ , ทีมงาน และพี่สายพิณด้วยค่ะ .. สาธุ

 94 
 เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 08:13:13 pm 
เริ่มโดย มือใหม่หัด พุทโธ - กระทู้ล่าสุด โดย pantep
รูป

 95 
 เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 03:16:43 pm 
เริ่มโดย manmaneekooko - กระทู้ล่าสุด โดย tua
เคยถามที่ซีเอ็ด ต้องสั่งของตอนนี้หมดต้องรอ1อาทิตย์  วันนี้จะไปจองต้องจ่ายเงินครึ่งนีงก่อนนะ อยากได้เหมือนกันล่ะ
ไม่ทราบว่าเคยไปพบท่านมาแล้วรึเปล่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปกราบหลวงพ่อมาที่ชมรมรักษ์พระธาตุ ดีมากๆเลย ถ้าว่างไปกราบท่านนะครับหายาก ท่านจะมาเดือนละ 1 ครั้งที่นี่นะ

 96 
 เมื่อ: กันยายน 19, 2010, 10:41:51 am 
เริ่มโดย manmaneekooko - กระทู้ล่าสุด โดย Chaturon
ตอนนี้ยังมีเหลืออยู่บ้างหรือเปล่าครับ

ถ้ายังมี ผมขออนุญาตรบกวนขอ หนังสือ และแผ่น cd ธรรมะชุดที่ 1 , ชุดที่ 2 ของหลวงพ่อ ด้วยคนครับ


ชื่อ คุณบอมบ์

ที่อยู่ บ้านเลขที่ 171/133 ซอยรณภากาศ 4 ถนนพหลโยธิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ 10220


ขอบพระคุณอย่างสูงครับ ยิ้ม

สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยครับ



เพิ่มเติม

ล่าสุดผมได้รับหนังสือ และก็ซีดีหลวงพ่อ เรียบร้อยแล้ว

ขอขอบคุณทีมงาน และก็คุณสายพิณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอบคุณมากๆ ครับ ยิ้ม

อนุโมทนาบุญครับ

 97 
 เมื่อ: กันยายน 15, 2010, 08:20:43 pm 
เริ่มโดย บุญญพลัง - กระทู้ล่าสุด โดย บุญญพลัง
พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ท่านพ่อลี ธมฺมธโร)
เป็นพระกรรมฐานผู้เป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
ในปี ๒๕๐๐ ท่านเป็นผู้จัดงานฉลองกึ่งพุทธกาลขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ วัดอโศการาม
นับว่าท่านเป็นผู้มีบุญบารมีและศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนาอย่างสูงยิ่ง
ดังความปรากฏตอนหนึ่งใน “๒๘ อรหันต์ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์” ดังนี้

“ท่านจึงเป็นผู้ที่ท่านพระอาจารย์มั่นเมตตาและให้การยกย่องว่า
“มีพลังจิตสูง เป็นผู้เด็ดเดี่ยว อาจหาญ เฉียบขาด ถึงพร้อมด้วยศีลด้วยธรรม”
สมศักดิ์ศรีที่ได้รับความไว้วางใจ จากท่านพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม
ให้เป็น “อัศวินแห่งกองทัพธรรมกรรมฐานสายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต” ที่มีธรรมะเป็นอาวุธ”

แม้จะเปี่ยมด้วยบุญบารมีเพียงใด แต่ยังต้องพบกับอุปสรรคที่ทำให้มีความคิดที่จะลาสิกขา
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อครั้งท่านอุปสมบทในธรรมยุติกนิกาย
จำพรรษา ณ วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร เป็นพรรษาที่ ๓
ช่วงก่อนหน้านั้นท่านได้ขออนุญาตพระอุปัชฌาย์เพื่อจะออกธุดงค์ แต่ไม่ได้รับอนุญาต

“ในระยะนี้ได้ตรวจดูจิตใจของตนเองรู้สึกว่าเสื่อมในทางปฏิบัติ
คือจิตชักจะหันหน้าไปทางโลกเสียบ้าง ได้คิดต่อสู้อยู่จนตลอดพรรษา
อยู่มาวันหนึ่งได้เกิดความคิดในใจว่า ถ้าเราอยู่ในพระนครนี้เราต้องสึก
ถ้าเราไม่สึก เราต้องออกจากพระนครไปอยู่ป่า”

เมื่อมีความคิดดังกล่าวและก็ไตร่ตรองอยู่หลายครั้ง แต่ระหว่างนั้นก็มีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้น
เหตุการณ์สำคัญๆ ซึ่งท่านเล่าไว้เพื่อเป็นคติเตือนใจ ในอัตตประวัติ มีทั้งหมด ๔ คราว
เรื่องราวแรกเกิดขึ้นในวันหนึ่งที่ท่านรู้สึกท้องผูก ในตอนบ่ายจึงฉันยาถ่าย
โดยคาดว่าจะถ่ายอุจจาระประมาณ ๒๑ นาฬิกา ตามปกติดังที่เคยเป็นมา
แต่ปรากฏว่าในคืนนั้นไม่ได้อุจจาระ และตอนเช้าของวันรุ่งขึ้นก็ไปบิณฑบาตในตรอกวังสระปทุม

“พอเดินไปถึงหน้าบ้านที่เขาจะใส่บาตร ก็เกิดรู้สึกปวดอุจจาระอย่างหนักจนทนแทบไม่ไหว
จะเดินออกไปรับบาตรก็เดินไม่ได้ ก้าวขาไม่ออก
มัวแต่อดกลั้นขยับขาเดินได้ทีละคืบ ไปถึงป่ากระถินแห่งหนึ่ง
รีบวางบาตรลอดรั้วเข้าป่ากระถิน มันนึกอยากเอาหัวตำดินให้ตายเสียดีกว่า
เมื่อทำธุรกิจเสร็จแล้วก็ออกจากป่าอุ้มบาตรเดินบิณฑบาตต่อไปตามเคย
นนั้นได้ข้าวไม่พอฉัน กลับมาถึงวัดก็ได้เตือนตัวเองว่า
“มึงสึกไปแล้ว ต้องเป็นอย่างนี้ ใครเขาจะมาใส่บาตรให้กิน” เรื่องนี้ได้เป็นคติเตือนใจอย่างดี”

เหตุการณ์ในครั้งที่ ๒ เกิดขึ้นเมื่อท่านไปบิณฑบาต แถวถนนเพชรบุรี
เช้าวันนั้นยังไม่ได้ข้าวแม้แต่หนึ่งทัพพี แต่กลับประสบเหตุอื่นแทน

“พอดีได้เห็นหญิงแก่อายุประมาณ ๕๐ ปี ไว้ผมมวย กับตาแป๊ะแก่ไว้หางเปีย
ยืนส่งเสียงดังเอะอะอยู่ในห้องแถว ขณะนั้นเราเดินมาถึงตรงหน้าบ้านเขา
ก็หยุดยืนนิ่งดู ประมาณสัก ๒ อึดใจ เห็นยายแก่คว้าไม้กวาดตีหัวตาแป๊ะ
ตาแป๊ะคว้ามวยผมถีบหลังยายแก่ ตัวเองก็เริ่มนึกว่า
“ถ้าเป็นเราโดนเข้าอย่างนี้จะทำอย่างไรกัน” ก็ตอบขึ้นว่า “มึงต้องบ้านแตกสาแหรกขาดแน่”
การที่ได้ประสบพบเหตุการณ์อย่างนี้ กลับดีใจยิ่งกว่าบิณฑบาตได้ข้าวเต็มบาตร”

ในวันนั้นท่านพ่อได้ข้าวแทบไม่พอฉัน เมื่อถึงเวลากลางคืน ท่านก็ได้ตริตรองเรื่องนี้อยู่ตลอด
ทำให้ก็รู้สึกเบื่อหน่ายเรื่องของโลกออกไปโดยลำดับ

เหตุการณ์ต่อมาเกิดขึ้นเมื่อไปบิณฑบาต แล้ววกกลับมาทางด้านหลังวัดปทุมวนารามฯ
บริเวณนั้นเป็นถนนดิน ถ้าฝนตกถนนจะลื่น ท่านเดินอย่างสำรวมมาถึงหน้าบ้านของโยมคนหนึ่ง

“บิณฑบาตได้ข้าวเต็มบาตร ใจก็นึกคิดไปในอารมณ์ของโลก
นึกจนเผลอตัวก้าวลื่นถลาล้มลงไปในบ่อข้างถนน หัวเข่าทั้งสองจมลงไปอยู่ในโคลนประมาณ ๑ คืบ
ข้าวสุกในบาตรหกหมด เนื้อตัวมอมแมมไปด้วยโคลน ต้องรีบเดินทางกลับวัด
เมื่อกลับมาถึงวัดแล้ว เก็บเอามาเป็นคติเตือนใจสอนตนเองว่า การนึกในเรื่องทางโลกของเรา
เพียงแต่นึกคิดมันก็ยังมีโทษติดตามมาได้ถึงเพียงนี้ ใจก็ค่อยคลายค่อยเบื่อออกไปโดยลำดับ
คิดว่า “เรื่องครอบครัวนั้นมันเป็นเรื่องของเด็ก ไม่ใช่เรื่องของผู้ใหญ่” กลับความคิดเห็นเป็นอย่างนี้”

เหตุการณ์สุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อท่านบิณฑบาตไปตามถนนเพชรบุรี
ไปถึงวังของพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าธานีนิวัติ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร
พระองค์ท่านจะใส่บาตรประจำวันแก่พระสงฆ์ทั่วไป แต่วันนั้นมีขันข้าวอีกขันหนึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามวัง
ท่านพ่อจึงเดินไปรับบิณฑบาตจากขันตั้งใหม่เสียก่อน แล้วจึงหันกลับมาเพื่อจะไปรับขันที่อยู่ตรงข้าม

“พอดีมีรถเมล์ขาวนายเลิศวิ่งมาอย่างรวดเร็ว วิ่งเฉียดศีรษะไปห่างประมาณ ๑ คืบ
คนโดยสารร้องตะโกนโวยวายขึ้น ตัวเองก็ผงะยืนตกตะลึงอยู่เป็นเวลาหลายอึดใจ
วันนั้นเกือบถึงแก่ความตายเพราะถูกรถเมล์ชน ขณะกลับไปรับบาตรที่วังพระองค์เจ้าธานีฯ
ต้องสะกดตัวไว้อย่างเข้มแข็ง มีอาการสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว”

ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้เป็นคติเตือนใจท่านอย่างดี
จนถึงปี พ.ศ. ๒๔๗๔ เมื่อออกพรรษาแล้ว ท่านก็มีดำริว่า

“ในปีพรรษาที่ ๓ ก็นึกว่า เราต้องออกจากพระนครแน่ๆ
ถ้าพระอุปัชฌาย์ยังหวงห้ามกีดกันอีก เห็นจะต้องแตกกันในคราวนี้
มิฉะนั้นก็ขออำนาจคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงช่วยข้าพเจ้าโดยทางอื่น”

ต่อมาในวันหนึ่งเวลากลางคืน ท่านอ่านหนังสืออยู่แล้วเคลิ้มหลับไป
 
“พอเคลิ้มหลับได้เห็นพระอาจารย์มั่นมาดุว่า “ท่านอยู่ทำไมในกรุงเทพฯ ไม่ออกไปอยู่ป่า"
ก็ได้ตอบท่านว่า “พระอุปัชฌาย์ไม่ยอมให้ไป" ท่านตอบคำเดียวว่า “ไป"
จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานถึงท่านว่า “เมื่อออกพรรษาแล้ว ขอให้ท่านมาโปรดเราเอาไปให้จงได้"”

หลังจากนั้นไม่กี่วัน ท่านพ่อก็ได้พบกับท่านพระอาจารย์มั่น ซึ่งมาพักอยู่ที่วัดบรมนิวาสราชวรวิหาร
เพื่อเยี่ยมอาการอาพาธของพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท)

“นับแต่อุปสมบทล่วงแล้วได้ ๔ พรรษา เพิ่งจะได้มาพบท่านอีกในคราวนี้ ก็ได้เข้าไปกราบไหว้
ท่านก็เมตตาแสดงธรรมให้ฟังว่า “ขีณาชาติ วุสิตัง พรหมจริยันติ” แปลได้ใจความสั้นๆ ว่า
“พระอริยเจ้าขีณาสพทั้งหลาย ท่านทำตนให้เป็นผู้พ้นจากอาสวะแล้วมีความสุข
นั้นคือพรหมจรรย์อันประเสริฐ” จำได้เพียงเท่านี้
แต่รู้สึกว่าเราไปนั่งฟังคำพูดของท่านเพียงเล็กน้อย ใจนิ่งเป็นสมาธิดีกว่าเรานั่งทำคนเดียวมากมาย
ในที่สุดท่านก็สั่งว่า “คุณต้องไปกับเราในคราวนี้ ส่วนอุปัชฌาย์นั้นเราจะไปเรียนท่านเอง””

ท่านพ่อลีจึงได้ติดตามท่านพระอาจารย์มั่นไปธุดงค์ทางภาคเหนือรอดพ้นจากการลาสิกขา ครองสมณเพศตราบวาระสุดท้ายแห่งชีวิต

-----------------------------------------------------------------------
เอกสารประกอบการเขียน
“ชีวประวัติพระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร )” พิมพ์ครั้งที่ ๓ ปี ๒๕๑๙

"๒๘ พระอรหันต์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์" พระธุตังคเจดีย์ วัดอโศการาม
ธรรมบรรณาการในงานบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์
(ท่านพ่อลี ธมฺมธโร ) ครบรอบวันมรณภาพปีที่ ๔๘ ๒๖ เมษายน ๒๕๕๒.

 98 
 เมื่อ: กันยายน 15, 2010, 08:14:25 pm 
เริ่มโดย บุญญพลัง - กระทู้ล่าสุด โดย บุญญพลัง
" ธรรมะเป็นอาวุธสำคัญที่กิเลสหวั่นไหวเกรงกลัวเพราะรู้ทันกลอุบายของมันผู้ปฏิบัติจะมีความอิ่มแห่งธรรมเหมือนอิ่มอาหาร
จะเข้าใจกันเอง ไม่ต้องถามเพราะธรรมเป็นของอิ่มพอ แต่กิเลสมันไม่เคยมีความอิ่ม มันหิวกระหายอยู่เป็นนิจ
คนเราถ้ามีกิเลสเต็มตัวแล้ว มันก็เหมือนหมูเราดี ๆ นี่เอง กินแล้วนอน ๆ จนอ้วนพีเขาก็นำไปขึ้นเขียงสับบั่นเท่านั้น
ฉะนั้นผู้ปฏิบัติธรรมเขาจึงไม่เลี้ยงกิเลส เขาทำลายกิเลสทั้งนั้น พระอริยเจ้าทั้งหลายในอดีตที่ผ่านมาท่านรู้ทันกิเลสเมื่อกิเลสโผนมา
ธรรมะโผนไป กิเลสโหดร้าย ธรรมะโหดดี อยากรบต้องออกแนวรบ นักปฏิบัติคือนักรบ เป็นต้องเป็นตายต้องตาย
จึงจะเอากิเลสอยู่ กิเลสมีเท่าไหร่ ธรรมต้องมีเท่านั้น ”

 99 
 เมื่อ: กันยายน 15, 2010, 12:29:55 am 
เริ่มโดย lala - กระทู้ล่าสุด โดย lala




 
                                         ถ้าไม่สุข ก็ทุกข์น้อยลง..


 
 


“ความสุข...อาจทำให้ลุ่มหลง ความทุกข์...ทำให้รู้จักชีวิต
จึงควรขอบคุณความทุกข์บ้าง”

 

“เพียงคิดช่วยเขา...ใจเราก็สุขแล้ว เพียงคิดเบียดเบียนเขา...ใจเราก็ทุกข์แล้ว”
“น้ำทำให้เรือลอยได้ ก็ทำให้เรือล่มได้
ทรัพย์สินเงินทอง ทำให้คนเป็นสุขได้ ก็ทำให้คนเป็นทุกข์ได้”
“การมองข้ามงานเล็กไป จะทำให้งานใหญ่ไม่สำเร็จ”

 
“เพ่งโทษตน...เป็นบัณฑิต เพ่งความผิดคนอื่น...เป็นพาล”
“ก้าวแรก ก้าวต่อๆ ไป และก้าวสุดท้าย สำคัญพอๆ กัน ขาดก้าวใดก้าวหนึ่ง ชีวิตจะถึงที่หมายไม่ได้”
“คลื่นลมทำให้ทะเลสวย อุปสรรคทำให้ชีวิตงาม .. บุคคลจึงไม่ควรยอมแพ้เมื่อพบอุปสรรค”
“หากครั้งนี้ล้มเหลว ครั้งต่อๆ ไปต้องสำเร็จ .. เพราะความสำเร็จ มักมาหลังจากความล้มเหลวเสมอ”

“ความวิตกกังวลใจเป็นโรคร้ายของชีวิต ถ้าปล่อยก็ว่าง ถ้าวางก็จะเบา ถ้าเอาก็จะหนัก
ความยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นอุบายสร้างสันติ”

 
ยุ่งยาก กับ เยือกเย็น
“ในยามที่เราพบกับความยุ่งยาก ต้องพึ่งพาความเยือกเย็น ค่อยๆ ย้อนลงไปแยกแยะสาเหตุแห่งปัญหา ที่ทำให้เราเร่าร้อน”
“เราจะเอาชนะความยุ่งยากของชีวิตได้
ด้วยการเอาชนะความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นในใจของเราเสียก่อน”
“จงมองดูความวิตกกังวลของตนเอง
มองดูว่ามันทำให้เราเอาชนะปัญหาของเรา หรือมันทำให้เราหมดพลังและพ่ายแพ้”
“ปัญหาต่างๆ ของชีวิต ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
ความทุกข์ยากที่เราคิดว่ามันแสนสาหัสสำหรับเราในวันนี้
ในวันข้างหน้าเราอาจรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย..”
 
 

 
 
 
 

 100 
 เมื่อ: กันยายน 15, 2010, 12:11:37 am 
เริ่มโดย yoodthong - กระทู้ล่าสุด โดย lala
เห็นด้วยค่ะ  ยิ้ม

หน้า: 1 ... 8 9 [10]


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!